เหตุเพราะต้องการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง... กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นคว้าข้อมูลอย่างจริงๆจังๆ... ถึงท้ายที่สุด จะสามารถ"จดจัดตั้ง"ได้สำเร็จด้วยดี... แต่ระหว่างกระบวนการดังกล่าว ทำให้พบข้อสงสัยหลายประการที่หาคำตอบไม่ได้... เป็นที่มาของการบอกเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ เสริมข้อคิดเห็นในการเตรียมตัว สำหรับท่านผู้สนใจครับ...เนื่องจากรายละเอียดเยอะ จึงแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ตอนนะครับ จะได้ไม่เบื่อตัวหนังสือกันเสียก่อน...
อันดับแรก มาสร้างขวัญและกำลังใจกันก่อน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น เริ่มกันที่ ขั้นตอนการจดจัดตั้งแบบคร่าวๆ...
1. เตรียมข้อมูล... สำหรับใช้กับทุกข้อด้านล่างนี้ รายละเอียดมีอะไรบ้างผมจะแจงให้ฟังอีกที...
2. จองชื่อบริษัท ผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจ www.dbd.go.th... (1 ชม.)
3. สำหรับผู้ที่ต้องการมี ตราประทับ ก้เตรียมจัดหาไว้รอได้เลย... (2 วัน)
4. กรอกแบบฟอร์มจดทะเบียนนิติบุคคลทางอินเตอร์เน็ต และส่งให้นายทะเบียนตรวจสอบ... (1 ชม.)
5. รอผลการตรวจสอบ และแก้ไขตามที่นายทะเบียนแจ้งให้ทราบ หากมีส่วนที่ต้องแก้ไข... (2-5 วัน) และเตรียมเอกสารประกอบอื่นๆ
6. พิมพ์แบบฟอร์มที่ผ่านการตรวจสอบ พร้อมเซ็นต์ชื่อกำกับให้ครบทุกจุด เดินทางไปยื่นคำขอจดทะเบียนที่สำนักพัฒนาธุรกิจการค้าพร้อมเอกสารข้างต้น...
* เวลาที่ระบุในบางข้อคือการประมาณการ
** ส่วนข้อที่ไม่ระบุ สาเหตุคืออาจมีปัจจัยที่มีผลแตกต่างกันตามสภาวะแวดล้อมของแต่ละท่าน จึงประมาณการไม่ได้
*** จากหมายเหตุข้างต้น เร็วที่สุดที่เป็นไปได้ คือต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน ในการดำเนินการจดจัดตั้งด้วยตัวเองสำเร็จ
ต่อจากนี้ จะอธิบายวิธีเตรียมข้อมูลเพื่อกรอกแบบฟอร์มออนไลน์นะครับ เพื่อให้ท่านมาสารถทำได้สำเร็จภายใน 1 ชม. ท่านจึงต้องเตรียมข้อมูลล่วงหน้าไว้ก่อนทำการกรอกจริง จะได้ไม่ต้องหยุดพักเพื่อหาข้อมูลเพิ่มระหว่างทาง รายละเอียดค่อนข้างเยอะ จึงแบ่งออกเป็น 3 ดังมีรายละเอียดดังนี้ครับ...
ต่อจากนี้ จะอธิบายวิธีเตรียมข้อมูลเพื่อกรอกแบบฟอร์มออนไลน์นะครับ เพื่อให้ท่านมาสารถทำได้สำเร็จภายใน 1 ชม. ท่านจึงต้องเตรียมข้อมูลล่วงหน้าไว้ก่อนทำการกรอกจริง จะได้ไม่ต้องหยุดพักเพื่อหาข้อมูลเพิ่มระหว่างทาง รายละเอียดค่อนข้างเยอะ จึงแบ่งออกเป็น 3 ดังมีรายละเอียดดังนี้ครับ...
1. เตรียมข้อมูล... และเทคนิคการลงข้อมูล
- ชื่อภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ สำหรับใช้จองชื่อห้างหุ้นส่วน/บริษัทจำกัด เผื่อไว้ซัก 3 ชื่อ...
- ชื่อภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ, ที่อยู่, อาชีพ, อายุ, เบอร์โทรศัพท์ ,เลขที่บัตรประชาชน, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, อีเมล์, ของผู้ก่อการ(ต้องมี 3 คนขึ้นไป), กรรมการ, ผู้ถือหุ้น/จำนวนหุ้นที่ถือครอง และพยาน 2 คน (สำหรับพยานไม่ต้องใช้เอกสารสำเนาใดๆเลย)...
- อีเมล์, ไลน์, เฟส, ทวิตเตอร์ ของบริษัท หรืออื่นๆ เตรียมลงทะเบียนไว้ให้พร้อมครับ...
- ข้อมูลทุนจดทะเบียน ดังตัวอย่างด้านล่าง...
- ทุนจดทะเบียน 1000000 บาท
- แบ่งออกเป็น 200000 หุ้น
- มูลค่าหุ้นละ 5 บาท
- ชำระแล้ว 250000 บาท
ทุนจดทะเบียน เป็นการจำกัดความรับผิดชอบความเสียหายที่บริษัทอาจจะไปก่อขึ้น (ความสามารถในการใช้หนี้) และไม่ได้แปลว่าต้องมีเงินในบัญชีตามจำนวนที่จดจริงๆ นัยหนึ่งเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ นิยมจดกันที่ 1 ล้านบาท เพราะค่าธรรมเนียมการจดขั้นต่ำคือ 5,000 บาท ถึงจดต่ำกว่านี้ ก้เสียเท่ากันครับ...
สรุปว่า คุณต้องมี
- จำนวนทุนจดทะเบียน เช่น 1,000,000 บาท...
- เงินก้อนนี้ถูกแบ่งเป็นจำนวนกี่หุ้น เช่น 200,000 หุ้น... และ
- มีมูลค่าหุ้นละเท่าไหร่ เช่น 5 บาท...
- ในส่วนของ ชำระแล้ว เช่น 250000 บาท... เพราะตามกฏหมายกำหนดให้ชำระไว้ที่ 25% เป็นอย่างน้อย ซึ่งก้ไม่ต้องมีเงินจริงอีกเช่นกัน
- ที่ต้องทำต่อก้คือ คำนวนว่าผู้ถือหุ้นแต่ละคนได้ "ชำระแล้ว"เท่าไหร่ (ที่ 25%) เพื่อเตรียมไว้กรอกในฟอร์มออนไลน์ต่อไป
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ... หากไม่ได้เป็นเจ้าของเอง ต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่... (ถ้าที่อยู่ มี หมู่ที่, ถนน ใส่ให้ครบจะได้ไม่เสียท่าง่ายๆ)
- ทำแผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป (ข้อนี้จะทำไว้เลยก้ได้ หรือเอาไว้ทำระหว่าง 1-2 วันที่รอผลการตรวจสอบก้น่าจะทัน)
- รายชื่อผู้ถือหุ้น ในข้อ 2... ถ้ายังไม่ออกเลขหมายของหุ้น ตอนลงข้อมูลให้กรอกว่า "ยังไม่ออกหมายเลขหุ้น" และไม่ต้องลงวันที่...
- ข้อมูลรายงานการประชุมตั้งบริษัท ลองเสิรชหาตัวอย่างดูคับ แล้วเตรียมข้อมูลไว้ก่อน...
- ข้อ 3. ค่าใช้จ่ายซึ่งจำเป็นต้องจ่ายในการตั้งบริษัทนี้ ใส่ตามจริง หรือเท่าไหร่ก้ได้
- ข้อ 5. พิจารณาเลือกตั้งกรรมการชุดแรกของบริษัท และกำหนดอำนาจกรรมการ เช่น นาย สมชาย ฟักอยู่ ลงลายมือชื่อและประทับตราของบริษัท
- ข้อ 6. พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าสินจ้าง
ในส่วนข้อมูลผู้สอบบัญชี/ค่าจ้าง ลองสอบถามคนรู้จักดูครับ หากไม่ได้ ก้พอมีวิธีค้นหาครับ เนื่องจากเป็นการลงข้อมูลให้ครบถ้วน ทางปฏิบัติสามารถเปลี่ยนแปลงภายหลังได้ครับ...
ใส่คำค้นหา จากนั้นก้อ่านเพื่อพิจารณาเลือกรหัสที่ตรงหรือใกล้เคียงมากรอกได้เลยครับ... โดยส่วนตัว
ผมก้ได้นำข้อมูลส่วนนี้มาเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งในวัตถุประสงค์ที่กำหนดเองด้วยครับ (เนื่องจากในแบบ
มาตราฐานไม่มีข้อที่ผมต้องการ)...
- วัตถุประสงค์... สามารถเลือกแบบวัตถุประสงค์มาตราฐานที่ระบบมีให้ หรือกำหนดเองก้ได้ เพียงแต่ไม่ควร copy วัตถุประสงค์ตัวอย่างมาแบบทื่อๆ... เพราะเสี่ยงต่อการโดนกลับมาแก้ไขใหม่... เราสามารถดูตัวอย่างมาตราฐานของกรมเป็นต้นแบบได้ครับ เลือกข้อที่เราคิดว่าใกล้เคียงหรืออาจจะทำในอนาคต และเพิ่มวัตถุประสงค์ที่กำหนดเองเติมเข้าไปได้ครับ...
ใส่คำค้นหา จากนั้นก้อ่านเพื่อพิจารณาเลือกรหัสที่ตรงหรือใกล้เคียงมากรอกได้เลยครับ... โดยส่วนตัว
ผมก้ได้นำข้อมูลส่วนนี้มาเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งในวัตถุประสงค์ที่กำหนดเองด้วยครับ (เนื่องจากในแบบ
มาตราฐานไม่มีข้อที่ผมต้องการ)...
* ส่วนการเตรียมข้อมูลนี้ อาจดูจุกจิกไปบ้าง แต่หากข้อมูลส่วนนี้พร้อมแล้ว จะสะดวกในการลงข้อมูลแบบรวดเดียวจบ ไม่ต้องรื้อค้นข้อมูลระหว่างทาง เพราะผมโดนมากับตัวแล้ว หึ หึ... ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้จัดหากล่องใส่แฟ้มขนาดย่อมซักใบ และเตรียมสมุดแฟ้มอีกหนึ่งเล่ม สำหรับจัดเรียงเอกสารข้างต้นให้เป็นระเบียบ เพื่อง่ายต่อการค้นหาระหว่างลงข้อมูลออนไลน์ครับ...
2. จองชื่อบริษัท ผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจ...
อันดับแรกสุด... ต้องใช้ IE 7 หรือ 8 เท่านั้น เป็นคำเตือนจากระบบของกรมฯ เพื่อความสะดวกของท่าน (เพราะผมโดนมาแล้ว โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง)... ท่านจะพบ ประกาศคำเตือนและรายละเอียดได้เมื่อเข้าสู่ "ระบบจดทะเบียนนิติบุคคล"...
- เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th...
- ลงทะเบียนสมัครสมาชิกตามขั้นตอน...
- Login เข้าระบบ แล้วเลือกที่ "จองชื่อ/จดทะเบียนนิติบุคคล"...
- คลิกที่ “จองชื่อห้างหุ้นส่วน/บริษัทจำกัด” ต่อด้วย"ยอมรับเงื่อนไข"...
- ตอนนี้เรากำลังอยู่ที่ "ระบบงานจองชื่อ" ให้สังเกตมุมขวาบน...
- พิมพ์ชื่อบริษัทที่เตรียมไว้ และกดปุ่ม"ค้นหา"ด้านขวา เพื่อตรวจสอบว่าชื่อที่เราต้องการจดไม่ซ้ำหรือคล้ายกับชื่อบริษัทอื่นหรือไม่... ถ้าเรียบร้อยดี ให้เลือกปุ่ม "จองหรือตรวจสอบคำร้อง" เพื่อจองชื่อได้เลย แล้วก้รอ...
- ประมาณ 30 นาที ให้เข้ามาดูผลในระบบอีกครั้ง ว่านายทะเบียนตอบกลับมาว่าอย่างไร ถ้าชื่อที่ขอไปมีผล"รับจองชื่อ" ก็เตรียมตัวไปกรอกแบบฟอร์มกัน...
ติดตามตอนที่ 2 ได้ในโพสท์ถัดไปครับ...จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง #2/3...
